ผู้คนกำลังมองเห็นคุณเป็นผู้นำแบบไหน?
ในการเป็นผู้นำหรือผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ ทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์ในความสำเร็จเป็นของตัวเอง หลายๆ ครั้งผู้ที่ประสบความสำเร็จไม่ได้เป็นผู้ที่เก่งไปเสียทุกอย่าง หรือ ฉลาดล้ำจนใครๆ ก็ตามไม่ทัน แต่ผู้คนเหล่านี้มีคุณสมบัติของการเป็นผู้กล้าตัดสินใจ และมีไหวพริบในการจัดการเรื่องต่างๆ ผ่านประสบการณ์มากมาย อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่คนเหล่านี้มักจะมีร่วมกัน แต่เป็นความเหมือนที่แตกต่าง สิ่งนั้นเรียกว่า ‘สไตล์’
สำหรับการพัฒนาดาวเด่นหรือผู้ที่มีความสามารถสูงในหลายๆ องค์กรนั้น สิ่งที่น่าหงุดหงิดใจมากกว่าการทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในสายอาชีพ คือ การที่เหล่าดาวเด่นของพวกเขา ‘ขาดสไตล์การเป็นผู้นำที่เหมาะสม’
เมื่อพูดถึงสไตล์ ‘สไตล์’ เป็นเหมือนพลังงานบางอย่างที่จับต้องไม่ได้ ทว่าสัมผัสได้จากความรู้สึก ผ่านความคิด มุมมอง การกระทำ ของคนอื่นๆ มากไปกว่านั้น สไตล์ไม่สามารถระบุได้ว่าจะต้องพัฒนาอย่างไรถึงจะเพอร์เฟคที่สุด ซึ่งการเลือกคนมาเป็นตำแหน่งผู้บริหาร บางคนก็อาจเคยถูกพูดว่า “คุณยังขาดสิ่งสำคัญสำหรับการเป็นผู้บริหารไป” และพวกเขามักล้มเหลวในการจะบอกอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่คุณต้องพัฒนานั้นคืออะไร?
ส่วนใหญ่นั้น เกิดจากความรู้สึก หรือ sense ที่บอกว่าคุณยังดูไม่มีความเป็นผู้นำมากพอ หรือ อาจเป็นคนเก่งแต่ยังไม่เหมาะที่จะบริหารผู้อื่นได้ ซึ่งในความเป็นจริงการมีสไตล์ความเป็นผู้นำที่ชัดเจนสามารถทำให้คนๆ นึงแสดงความสามารถได้มากกว่าที่พวกเขาเคยเป็น ขณะเดียวกันการมีสไตล์ความเป็นผู้นำที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้ความสามารถที่คุณมีดูด้อยลงไปเลยก็ได้เช่นกัน
แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้คุณกำลังแสดงออกเป็นผู้นำแบบไหน?
บุคลิกการแสดงออกของคนเราตีความผ่าน 3 ปัจจัย ได้แก่
บทบาท หรือ ตำแหน่ง ที่เป็นอยู่
ลักษณะท่าทาง
การแสดงออกทางน้ำเสียง
ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยนี้ จะถูกแสดงออกเป็น 2 ลักษณะ คือ แบบทรงพลัง และ แบบสงบนิ่ง
รูปแบบทรงพลัง
แสดงออกถึงความมั่นใจ มีความสามารถ มีเสน่ห์ ดูสง่า ดูมีอำนาจ และ สามารถทำให้คนอื่นเกรงกลัวได้ ซึ่งการแสดงออกให้คนอื่นรู้จักเช่นนี้จากตัวเรา สามารถอธิบายผ่าน 3 ปัจจัยข้างต้นเป็นตัวอย่างได้ว่า
บทบาท - คุณอยู่ในบทบาทของผู้มีตำแหน่งสูงกว่า ในแง่การทำงานคือมีทีมงานให้บริหารดูแล ในแง่ครอบครัวคือเป็นผู้นำครอบครัว
ท่าทาง – อกผายไหล่ผึ่ง ท่าทางมุ่งมั่น สบตาคู่สนทนาเวลาพูดเสมอ รักษาระยะห่างกับผู้อื่น เลี่ยงการมองหน้าเมื่อต้องฟัง
น้ำเสียง – เสียงห้าว เสียงเข้ม เสียงดัง พูดเร็วชัดเจน ตรงประเด็น
รูปแบบสงบนิ่ง
แสดงออกผ่านความปรองดอง เป็นมิตร เข้าถึงง่าย น่ารัก ขี้อาย ดูไม่มั่นใจ และ เป็นคนว่าง่าย ดูเป็นคนอ่อนโยน ซึ่งคนอื่นจะรู้สึกเช่นนี้ เมื่อแสดงออกผ่าน 3 ปัจจัยด้วยตัวอย่างรูปแบบดังนี้
บทบาท – คุณอยู่ในบทบาทของผู้มีตำแหน่งต่ำกว่า ในแง่การทำงานไม่จำเป็นที่คุณจะต้องเป็นทีมงานเสมอไป คุณอาจเป็นหัวหน้าของใครสักคน แต่คุณก็มีหัวหน้าของคุณอีกขั้นเช่นกัน การแสดงออกอาจไม่เหมือนกันเมื่อคุณอยู่บทบาทที่ต่างกัน ในแง่ครอบครัวคุณอาจเป็นลูก หรือเป็นที่พึ่งของคนในครอบครัว
ท่าทาง – เข้าใกล้เมื่อพูดคุย สบตาคู่สนทนาเมื่อรับฟังเสมอ เลี่ยงการจ้องตาเมื่อต้องพูดคุยอย่างจริงจัง ยิ้มแย้ม เฮฮา
น้ำเสียง – พูดเนิบๆ พูดเรื่อยๆ เสียงเบา เสียงนุ่ม ขี้สงสัย พูดคุยในเรื่องทั่วไป พูดจาเป็นกันเอง
อย่างไรก็ตามรูปแบบการแสดงออกนี้คุณไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกแสดงออกแบบไหน เมื่ออยู่ในสถานการณ์แบบใด รูปแบบการแสดงออกเหล่านี้เอง คือ ตัวที่จะกำหนดสไตล์ความเป็นผู้นำของคุณ เพราะ สไตล์ คือ การผสมผสานระหว่างรูปแบบการแสดงออกในแบบต่างๆ ออกมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล
แล้วคุณจะพัฒนาสไตล์ของตนเองได้อย่างไร?
ถึงแม้คุณจะรู้ว่าการแสดงออกแบบใด แสดงถึงอะไร ในขณะเดียวกัน โดยทั่วไปแล้ว คุณมักมีการแสดงออกที่เป็นอัตโนมัติของตนเองในสถานการณ์ต่างๆ หรือ ในบริบททางสังคมที่ไม่ชัดเจนคุณก็จะแสดงความเป็นตัวเองออกมา ซึ่งการแสดงออกทั้งแบบทรงพลัง และ สงบนิ่ง สามารถแสดงออกได้ด้วยบทบาทที่ต่างกัน เช่น คุณสุภาพ น่ารัก อัธยาศัยดี เมื่อคุณเป็นลูกน้อง แต่วันนึงที่คุณต้องเป็นหัวหน้าคุณก็ต้องพิจารณาการแสดงออกที่เหมาะสมกับตำแหน่งเพื่อความน่าเชื่อถือ
ขึ้นชื่อว่าเป็นคนย่อมมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งคนที่รับรู้และเข้าใจความแตกต่าง คนที่เลือกแสดงออกสุดโต่งในแบบที่ตัวเองเป็นโดยไม่สนใจคนอื่น คนที่ทำความเข้าใจและปรับตนเองให้เข้ากับคนอื่นตลอดเวลา ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ การสร้างสมดุลให้กับการแสดงออกของคุณอย่างเหมาะสม ทุกคนล้วนสามารถแสดงออกได้ทั้งสองแบบขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง ซึ่งคนที่สามารถแสดงออกได้อย่างเหมาะสม ถูกที่ ถูกสถานการณ์ นั้นมีน้อยคน และคนที่สามารถทำได้นั่นเอง ที่เรียกว่า มีความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ผู้นำไม่ใช่คนที่สไตล์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นคนที่สามารถปรับตัวและเลือกใช้การแสดงออกได้อย่างเหมาะสม ถูกที่ ถูกเวลา
ซึ่งคุณสามารถพัฒนาสไตล์ความเป็นผู้นำของตนเองได้ หากคุณต้องการ มาดูเคล็ดลับการพัฒนาสไตล์ความเป็นผู้นำให้คุณแสดงออกอย่างเหมาะสมกันค่ะ!
รู้จักตนเอง
พื้นฐานของทุกอย่างล้วนเกิดจากการรู้จักตนเอง การพัฒนาสไตล์ความเป็นผู้นำก็เช่นกัน คุณจะพัฒนาตัวคุณได้อย่างไร หากวันนี้คุณยังไม่รู้ว่าตนเองเป็นแบบไหน คนส่วนใหญ่สามารถตรวจสอบสไตล์ที่คุณเป็นอยู่ได้ด้วยคำพูดจากบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือ หัวหน้า เช่น “คุณเป็นคนดีมากเลย” หรือ “คุณต้องแสดงความคิดเห็นของตัวเองนะ” คำพูดเหล่านี้บอกว่าคุณอาจเป็นสายสงบนิ่ง ในทางกลับกัน เมื่อคุณได้รับคำพูด เช่น “คุณดุจัง” หรือ “ทำไมคุณไม่ฟังฉันบ้าง” บ่งบองว่าคุณกำลังเป็นสายทรงพลัง อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าคุณเป็นคนสไตล์ไหน แต่คุณต้องเป็นคนถามพวกเขาเพื่อรู้จักตัวเองในมุมมองของคนอื่นได้มากขึ้น
หากคุณยังไม่มั่นใจ คุณสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเองได้ เมื่อคุณต้องประชุมออนไลน์บ่อยมากขึ้น ให้คุณลองอัดหน้าจอการประชุม และลองมาวิเคราะห์ดูตัวเองได้ว่าคุณกำลังแสดงออกแบบใดอยู่ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการทำความรู้จักตนเองให้มากขึ้น
2. ทดลองทำด้วยตนเอง
เมื่อคุณรู้จักตนเองมากขึ้นแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องลองนำไปใช้จริง ให้คุณลองเลือกท่าทาง และ วิธีการพูด สัก 1-2 อย่าง ที่คุณสนใจมาลองปรับใช้กับตัวคุณ สังเกตปฏิกิริยาของคนรอบข้าง และดูว่าเป็นสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่ วิธีนี้อาจสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้คุณและคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน หากคุณพบว่าการแสดงออกแบบนี้ใช้ได้ผล คุณจะเริ่มปรับตัวกับมันได้มากขึ้น และเชื่อได้เลยว่าเมื่อคุณใช้มันบ่อยๆ ทุกคนก็จะเคยชินกับมันและเป็นตัวคุณเองในที่สุด
3. อ่านบรรยากาศรอบข้าง
คำถามที่มักจะพบเป็นประจำต่อมา แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเวลาไหนควรแสดงออกแบบทรงพลัง เมื่อไหร่ควรแสดงออกแบบสงบนิ่ง ความสามารถในการอ่านบรรยากาศหรือสถานการณ์จึงเข้ามาสนับสนุนในส่วนนี้ บางครั้งคุณอาจมีไอเดียในหัวว่า คุณต้องการให้คนรับรู้อะไรจากคุณ และคุณตั้งใจจะแสดงแบบไหน แต่เมื่ออยู่ในสถานที่จริง คุณอาจต้องเปลี่ยนแผน เพราะบรรยากาศไม่เป็นไปอย่างที่คุณคิด หากคุณพบกับคนที่ดูเป็นคนทรงพลัง คุณก็ต้องคุยด้วยแบบมีพลัง เมื่อคุณเจอคนที่นิ่งๆ คุณก็ต้องปรับวิธีพูดของคุณให้นิ่งตาม กับคนที่มีความแตกต่างหรือคนละตำแหน่งคุณก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะคนที่คุณคุยด้วย
ทุกคนล้วนมีครั้งแรกเสมอ และเมื่อคุณสามารถปรับตัวเองให้เหมาะสมได้กับทุกสถานการณ์ นั่นแปลว่า คุณกำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำที่แท้จริงในแบบของคุณ สร้างสไตล์ของตัวเองขึ้นมา ตอบสนองผู้คนได้เหมาะสม และทำให้ทีมของคุณพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เป็นคุณสมบัติที่ผู้นำทุกคนมี และคุณเองกำลังจะเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสู่ความสำเร็จ
Credit: HBR
M.I.S.S.CONSULT The Leadership Solution Specialist (LSS)
Comments