top of page
The-most-successful-ideas-are-formulated-as-a-team-609070448_2700x3696 (1).jpeg

MC Blog

Writer's pictureM.I.S.S.CONSULT

ส่อง 5 ทฤษฎีการสร้างทีม ผ่าน UEFA EURO 2024



การแข่งขันฟุตบอลชายชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือที่รู้จักกันในชื่อ UEFA EURO 2024 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงทักษะฟุตบอลที่น่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ "ภาวะผู้นำ" และ "การทำงานเป็นทีม" ในเส้นทางสู่ชัยชนะ


ในขณะที่ทีมต่างๆ แข่งขันกันเพื่อคว้าถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติ แนวคิดต่างๆ เช่น "ความไว้วางใจ" "ความสามัคคี" และ "การเสริมพลังซึ่งกันและกัน" จะกลายเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนทั้งในและนอกสนาม ทุกประตูที่ทำได้ ทุกชัยชนะ และแม้กระทั่งความพ่ายแพ้ จะสะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของทีมและความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่น


วันนี้เราจะมาเจาะลึก 5 ทฤษฎีการสร้างทีมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโลกของฟุตบอลอาชีพ และมาร่วมสำรวจกันว่า บทเรียนจากวงการฟุตบอลสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับความสำเร็จในชีวิตจริงได้อย่างไรบ้าง



1. ผู้เล่นดาวเด่น: ช่วยยกระดับทีม


ในช่วงปี ค.ศ. 1920 ทฤษฎีเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม “Köhler effect” ได้อธิบายถึง แนวโน้มที่สมาชิกในทีมจะเล่นในระดับเฉลี่ยของกลุ่ม ซึ่งหมายความว่า “สมาชิกที่มีผลงานน้อยจะมีแรงจูงใจที่จะพัฒนาตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันสมาชิกที่มีผลงานมากอาจลดระดับฟอร์มการเล่นลงได้”


เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ทีมต้องรักษามาตรฐานให้สูง และความรับผิดชอบนี้มักจะตกอยู่กับผู้เล่นดาวเด่นอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส), เควิน เดอ บรอยน์ (เบลเยียม), คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส) และ แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ) ที่จะต้องเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมทีมมุ่งพัฒนาไปถึงมาตรฐานที่สูงขึ้น รวมถึง เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนร่วมทีมที่มีประสบการณ์น้อยกว่า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สถานการณ์ยากลำบาก



2. การเสริมพลังให้ผู้เล่น: ความรับผิดชอบและมีส่วนร่วม


แนวคิด “Ringelmann effect” ที่ได้มาจากการทดลองชักเย่อในปี 1927 แสดงให้เห็นว่า “การเพิ่มคนในทีมมากขึ้นกลับทำให้แต่ละคนพยายามน้อยลง” เนื่องจากความรับผิดชอบและการถูกมองเห็นตัวตนลดลง


นี่อาจเป็นความเสี่ยงสำหรับทีมฟุตบอล เพราะบางครั้งผู้เล่นถูกกล่าวหาว่าไม่ค่อยปรากฏตัวในเกม แทนที่จะเป็นเช่นนั้น โค้ชควรเสริมพลังผู้เล่น โดยให้ความรับผิดชอบที่ชัดเจนและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจวิธีการเล่นและการฝึกซ้อม


การทำเช่นนี้ จะช่วยพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำของผู้เล่น เพื่อส่งเสริมให้พวกเขารับผิดชอบในการตัดสินใจและการพัฒนาตัวเอง



3. ความไว้วางใจ: รากฐานแห่งความสำเร็จ


การวิจัยพบว่า “ความไว้วางใจ” เป็นกุญแจสำคัญในการทำงานของทีม เมื่อผู้นำทีมและสมาชิกทีมเชื่อมั่นในทักษะและความสามารถของกันและกัน จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความร่วมมือ ทำให้ทีมทำงานได้ดีขึ้น


ในวงการฟุตบอล โรนัลโด้ และ เอ็มบัปเป้ แม้จะเป็นผู้เล่นที่มีฝีมือยอดเยี่ยมและมั่นใจในทักษะของตัวเอง แต่ความสำเร็จของพวกเขาและทีม เกิดมาจากการที่พวกเขาเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีม


เมื่อโค้ชและผู้เล่นระดับท็อปแสดงถึงความไว้วางใจในเพื่อนร่วมทีม ความมั่นใจของทีมก็จะเพิ่มขึ้น และพวกเขาจะตอบแทนความไว้วางใจนี้ด้วยความมุ่งมั่นที่สูงขึ้น



4. คุณค่า: หลักในการสร้างวัฒนธรรมทีมที่ดี


ทฤษฎีการจัดการที่ได้รับความนิยม แนะนำว่า “การตัดสินใจและพฤติกรรมของผู้นำควรสอดคล้องกับ “คุณค่า” ของตนเอง เพื่อสร้างวัฒนธรรมทีมที่ส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจ”


ก่อนการแข่งขัน Euro 2020 แคสเปอร์ ฮูลมันด์ หัวหน้าโค้ชทีมชาติเดนมาร์ก ได้ปรับใช้วิธีนี้ โดยการพูดคุยกับผู้คนจากหลากหลายอาชีพ เพื่อทำความเข้าใจ “คุณค่า” ของสังคมเดนมาร์กให้ดียิ่งขึ้น และนำมาสร้างปรัชญาฟุตบอลที่เป็นประโยชน์อย่างมากในช่วงการแข่งขันฟุตบอล Euro ครั้งล่าสุด เมื่อ คริสเตียน อีริคเซ่น หนึ่งในผู้เล่นหลักของเขา ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน “การมีคุณค่าร่วมกันและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน” ช่วยให้ทีมผ่านพ้นสถานการณ์ที่น่าตกใจนั้น และยังสามารถไปถึงรอบรองชนะเลิศได้



5. ศัตรูและความขัดแย้ง: ผลักดันและความท้าทาย


บางครั้ง การมีศัตรูร่วมกัน สำหรับฟุตบอลนานาชาติ “ศัตรู” เหล่านี้อาจเป็น “คำวิจารณ์จากภายนอก” โดยการวิจัยชี้ว่าบางครั้ง “คำวิจารณ์” เหล่านี้สามารถเป็น “แรงผลักดัน” ให้ทีมแน่นแฟ้นขึ้น เพราะสมาชิกในทีมจะสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่งเพื่อตอบโต้พลังงานด้านลบจากภายนอก


อย่างไรก็ตาม แม้ความสัมพันธ์จะแน่นแฟ้นแค่ไหน หากเจอแรงกดดันอย่างหนักก็อาจทำให้ความสัมพันธ์ในทีมแตกสลายได้ ทีมที่ทำผลงานได้ไม่ดีมักจะประสบปัญหาความขัดแย้งภายในทีม ซึ่งอาจนำไปสู่ความบาดหมางและบรรยากาศที่ toxic ภายในทีม


โค้ชใน Euro 2024 จึงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างและรักษาบรรยากาศที่ดีในทีม แม้จะมีแรงกดดันจากความคาดหวังที่สูงและเมื่อต้องเผชิญกับความผิดหวัง


นี่คือ บททดสอบที่แท้จริงของภาวะความเป็นผู้นำและการสร้างทีมที่ดี ซึ่งโค้ชและผู้เล่นต้องพยายามลุกขึ้นใหม่และรักษาความไว้วางใจและแรงจูงใจเอาไว้ ในขณะที่เริ่มต้นเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งต่อไป



สรุป


UEFA EURO 2024 ไม่เพียงเป็นเวทีที่สุดยอดทีมจากทั่วทั้งยุโรปมาแข่งขันกันเท่านั้น แต่ยังเป็นสนามที่สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานเป็นทีม การสร้างแรงบันดาลใจ และการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ซึ่งเป็นบทเรียนล้ำค่าสำหรับคนทำงานทุกคน


ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับทีมด้วยผู้เล่นดาวเด่น การเสริมพลังและความรับผิดชอบให้กับสมาชิก การสร้างความไว้วางใจ การยึดมั่นในคุณค่าร่วมกัน หรือการเผชิญหน้ากับความท้าทายและความขัดแย้ง ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโลกการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ในองค์กร คุณอาจเป็น “ผู้เล่นดาวเด่น” ที่ต้องสร้างแรงบันดาลใจให้ทีม หรือเป็น “ผู้เล่น” ที่ต้องรับผิดชอบและพัฒนาตนเอง หรืออาจเป็น “ผู้นำ” ที่ต้องสร้างความไว้วางใจและนำทีมฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปสู่เป้าหมาย


ไม่ว่าคุณจะอยู่ในบทบาทใด จำไว้ว่าความสำเร็จที่แท้จริงนั้นเกิดจากการทำงานร่วมกัน การเรียนรู้จากความผิดพลาด และการเติบโตไปด้วยกัน เหมือนกับทีมฟุตบอลที่ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักและเรียนรู้จากความพ่ายแพ้เพื่อก้าวไปสู่ชัยชนะ


สุดท้ายนี้ ขอให้ UEFA EURO 2024 เป็นแรงบันดาลใจให้คุณและทีมงานของคุณมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพและบรรลุเป้าหมายร่วมกันอย่างเต็มกำลัง



Source


Comments


bottom of page